หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Backdraft (1991)

แบคดราฟท์ เปลวไฟกับวีรบุรุษ


                  เปลวไฟที่โหมกระหน่ำ ผู้กล้า นักผจญเพลิงและคดีเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์ที่ดูได้แค่ต้นเรื่องก็ทำให้รู้สึกว่าอยากเป็นนักดับเพลิงเท่ห์ๆ บ้างจังเลย
                  ต้องขอบคุณ บิกซีนีม่า ช่อง 7 อีกครั้งที่เอาเรื่องนี้มาฉายเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่การดับไฟ แต่หนังนำเสนอมุมมองที่เข้มข้นชวนติดตาม การช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย การบุกลุยเข้าไปในเปลวไฟที่โหมกระหน่ำของเหล่านักผจญเพลิง การเอาชีวิตรอด การค้นหาตัวคนร้าย และความขัดแย้งของพี่น้อง 
           


                        เกือบตลอดทั้งเรื่องนั้น เราจะได้รับชมฉากลุยไฟที่ชวนให้ลุ้น ให้ติมตาม สำหรับผมที่ได้ดูเรื่องนี้ครั้งแรก เมื่อหลายปีก่อนนั้น เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก เป็นหนังเรื่องแรกที่เกี่ยวกับนักดับเพลิง ประกอบสมัยนั้นบ้านเราไม่มีหนังแนวนี้เลย (ปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีการสร้างหนังที่เกี่ยวกับองค์กรต่างๆในบ้านเรา) และอาจจะด้วยบ้านเราไม่ค่อยมีเหตุเพลิงไหม้ (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี) ส่วนใหญ่เราจะเห็นรถดับเพลิงจอดอยู่เฉยในสถานีดับเพลิง กับตำรวจดับเพลิงที่ผ่านกี่ทีก็เห็นแต่รุ่นลุง แต่งชุดสีน้ำตาลอ่อนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เวลาดูข่าวไฟไหม้ก็เห็นแต่เอาน้ำฉีด 
                        แต่ฉากต่างๆที่เราได้เห็นในหนังนั้นคนละเรื่องกันเลย มันไม่ใช่แค่การดับไฟ แต่มันคือการถือขวานบุกตะลุยเข้าไป ช่วยผู้ประสบภัยและการค้นหาต้นเพลิง การทำงานที่เสี่ยงภัยต้องมีทั้งเทคนิค การตัดสินใจที่เยือกเย็น ความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญและความเสียสละ 



                          นอกจากฉากดับไฟ ตลุยไฟแล้ว ก็มีฉากเบาๆแทรกเป็นระยะให้ได้พักความตื่นเต้น ไม่ถึงกับน่าเบื่อ โดยรวมเป็นอีกหนึ่งเรื่องสนุกและเข้มข้น ฉากต่างๆทำได้ดี ราวกับว่าเป็นเรื่องจริง ไฟไหม้จริงๆ บวกกับเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่ ไม่ค่อยมีการสร้างหนังแนวนี้   สำหรับท่านที่ยังไม่เคยดูหรือเบื่อแนวแอคชั่นระห่ำเมืองแล้ว ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ครับ


 


เพิ่มเติม
  • เป็นหนังแอคชั่น สะเทือนขวัญที่ค่อนข้างจริงจัง
  • ฉากจบ ที่จบแล้วยังชวนให้คนดูอย่างผมรู้สึกมีแรงบันดาลใจ 


ข้อมูลอ้างอิงจาก
http://www.imdb.com/title/tt0101393/


วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

THE FUGITIVE (1993)

เดอะฟูจิทีฟ ขึ้นทำเนียบจับตาย

                  คดีปริศนา การสืบสวนที่ผิดพลาด การหลบนี การไล่ล่า การค้นหาความจริง การหักหลัง และจรรณยาบรรณของหมอคนนึง และการแสดงของ สองสุดยอดดาราเจ้าบททาทระดับออสการ์ นั่นคือส่วนหนึ่งที่ผู้ชมจะได้จากเรื่องนี้
                 หนังเก่าเมื่อปี พ.ศ.2536 ซึ่งผมได้ดูเรื่องนี้ครั้งแรกจากบิ๊กซีนีมา ช่อง7 เมื่อสิบกว่าปีก่อน ถึงจะไม่ใช่หนังแอคชั่น บูีระห่ำเมือง แต่ในเวลาที่ดูนั้น ผู้ชมต้องได้ลุ้น และคอยเอาใจช่วยตัวเอกของเรื่องตลอด

                ปกหน้าแผ่น VCD ของผู้เขียน
                      
                        หนังเริ่มเรื่องจากงานเลี้ยงของคนในวงการแพทย์ และค่อยๆ ขยายความออกไป การฆาตกรรม การสอบสวนแบบห่วยๆที่ดูไปแอบด่าไป ต่อด้วยการหลบหนีอย่างบังเอิญ การเปิดตัวของทีมผู้ไล่ล่ารายใหม่ที่ฝีมือและชั้นเชิงไม่ธรรมดา  

 ปกหลังแผ่น VCD

                       ในช่วงกลางเรื่องนั้นไม่ได้มีฉากอะไรหวือหวามากนัก แต่ต้องบอกว่าสนุกทีเดียว มีอะไรให้เราคิดตามและคอนลุ้นอยู่ตลอด ความเก่งกาจและมีน้ำใจของตัวละคร ที่น่าชื่นชม การที่ผู้ร้ายหลบหนีต้องแอบปลอมตัวเข้ามาสืบหาความจริงและไขคดีเอง การบุกเดี่ยวเข้าไปในดงตำรวจ เป็นฉากที่ดูแล้วชวนให้คิดว่า นายแน่มากและทเป็นกการรตอกย้ำำให้รูั้ว่า ตำรวจในเรื่องนี้ไม่เก่งเอาซะเลย        
                   
     สองนักแสดงนำ ต้องบอกว่าสุดยอดทั้งคู่

                       ด้วยการดำเนินเรื่อง และนักแสดง ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเป็นหนังดังเรื่องนึงในยุคนั้น ถึงแม้ฉากท้ายๆในตอนจบจะมีแอคชั่นฉากลุ้นระทึกอยู่บ้าง แต่ก็อาจจะดูธรรมดาในสมัยนี้ไป และคนดูก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อกับพระเอกและผู้ร้ายตัวจริง ต้องใช้จินตนาการนิดนึง แต่ด้วยตั้งแต่ต้นเรื่องสนุกและน่าติดตาม และต้องลุ้นอยู่ตลอด ก็ดูลงตัวดี สำหรับท่านที่ยังไเม่คยชมเรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ                   


ข้อมูลอ้างอิงจาก
http://www.imdb.com/title/tt0106977/


วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

TRUE LIES

คนเหล็กผ่านิวเคลียร์


                       ผลงานสุดคลาสสิคของพระเอกล่ำบึก อาร์โนล  สมัยที่ดูเรื่องนี้ครั้งแรก ยังเป็นแบบม้วนวีดีโอที่อัดซ้ำๆมาให้เช่า แน่นอนว่าความคมชัดของภาพน้อยบางดูไปดูมาเป็นเส้นก็มี เสียงก็ไม่เซอร์ราวน์ แต่ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงไปเลย เป็นหนังที่ผมชอบมาก สมัยนั้นต้องนับว่าตื่นตาตื่นใจมาก พระเอกเก่ง รักครอบครัว เปิดเรื่องได้ดีไม่ซับซ้อน แบบที่ดูแล้วรู้เรื่องเลย พระเอกทำงานอะไร ต่อด้วยเรื่องครอบครัว แล้วโยงกลับเข้ามาเรื่องงาน ตบท้ายด้วยฉากวินาศสันตะโรช่วงท้ายที่สนุกมาก 
                   ตอนที่ดูครั้งแรกๆ นั้น ผมไม่ได้เอะใจอะไรกับ ชื่อหนังเท่าไหร่ พอติดตามผลงาน ของอาร์โนลด์ ไปเรื่อยๆก็เลยเข้าใจว่า หนังทุกเรื่องที่แกแสดง ต้องมีคำว่าคนเหล็ก เป็นเครื่องหมายการค้า พอสังเกตุจากเนื้อเรื่อง ก็ร้องอ๋อ  มันผ่านิวเคลียร์จริงๆ แบบว่าผ่า ออกจากรูปแกะสลักอะไรสักอย่าง !!! ตอนที่ช่อง 7 เอามาฉายบิ้กซีนี่มา แล้วบอกชื่อหนัง "ทรู ไล คนเหล็กผ่านิวเคลียร์" ผมก็งงๆ เอ๊ะตกลงเรื่องนี้ ชื่ออังกฤษ ว่าอย่างนี้เองเหรอ พอดูซ้ำ จึงทำให้เข้าใจว่า หนังต้องการจะสื่อถึง เรื่องจริงกับเรื่องโกหก พระเอกโกหก  นางเอกโกหก ผู้ร้ายโกหก และความแตกต่างของการจำเป็นต้องโกหก และการโกหกจริงๆ อะไรทำนองนี้กระมัง สรุปว่าแค่ชื่อหนังก็มีอะไรให้คิดเล่นๆ ก่อนดูแล้ว   
                      


 ภาำพหน้าปก VCD 

         เมื่อดูจบแล้วสิ่งที่ผมชื่นชมคือ ไม่มีผู้บริสุทธิ์ตายแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แบบหนังแอคชั่นในสมัยนี้ที่มีคนตายเกลือน แล้วคนร้ายลอยนวล แถมหลายๆเรื่องพระเอกก็ลอยนวล ใครจะตายช่างมัน รถใครจะพังกี่คันก็ช่าง ขอข้าจับคนร้ายได้ก็พอ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยดู หรือได้ดูหนังเรื่องหลังๆของอาร์โนลด์แล้วยังไม่เคยดูเรื่องนี้ ผมแนะำนำเรื่องนี้เลยครับ มีหลายฉากที่น่าจะถูกใจท่านแน่นอน เป็นหนังแอคชั่น-เบาสมอง

 ภาพปกหลัง VCD



ความเห็นเพิ่มเติม
  • เป็นหนังแอคชั่น-เบาสมอง คือดูแล้วไม่เครียด ไม่สะเทือนใจอะรไมากนัก สบายๆ
  • มีมุขตลกสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ บากฉากก็เหมือนจะแอบแซว หนังเรื่องอื่นของอาร์โนลด์
  • บางฉากอาจจะดูไม่สมจริง แต่หลายๆฉากก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ไม่ยาก
  • ฉากพระเอกขับเครื่องบิน เป็นอะไรที่ตื่นตามากสำหรับผม ( เมื่อ 10 กว่าปีก่อน หาดูฉากแบบนี้ได้ยากครับ) ไม่ได้ขับเก่งซะด้วย
  • ฉากการไล่ล่าในตัวเมือง ที่ไม่ธรรมดา ไอเดียของผู้สร้างดีมาก
  • และสุดคลาสสิค กับฉากสุดเซ็กซี่ของนางเอกที่น่าจะถูกใจหลายๆคน


ข้อมูลอ้างอิ้งจาก

http://www.imdb.com/title/tt0111503/combined


วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

FIGHT BACK TO SCHOOL

คนเล็กนักเรียนโต

              ในสมัยที่ยังไม่มีแผ่น VCD ถ้าไม่ได้ดูหนังกลางแปลงก็ต้องรอหนังรอบเช้าช่อง 7 เอามาฉาย สมัยนั้นน้อยคนจะไม่รู้จัก โจวซิงฉือ หนังของเค้าหลายเรื่องเป็นมุขตลกที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ หลายฉากก็ไม่ขำ อาจเป็นเพราะบทพากย์ แต่อาศัยสีหน้าท่าท่างและบุคลิกทำให้ฮาเข้าว่า (แนวๆจิมแครี่ แต่ผมชอบโจวซิงฉือมากกว่า เพราะนอกจาก สีหน้าท่าท่างแล้วยังมีการเมคอัพการใช้พร็อพหรือมีคู่หูร่วมด้วย)
 แต่รวมๆแล้วหนังของเค้าก็ดูง่าย ตลกปนสาระ คนเล็กนักเรียนโต เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่พระเอกค่อนข้างเป็นผู้เป็นคน มีตำแหน่งหน้าที่ชัดเจน มีความเก่งกาจพอตัวโดยที่ไม่ต้องมีพลังจิต!!! เพราะเรื่องอื่นๆ จะค่อนข้างเอ๋อๆ ตามสไตล์โจวซิงฉือ
             
                หลายท่านน่าจะยังจำฉากการทุจริตการสอบที่สุดคลาสสิคได้ ทำให้อดคิดไม่ได้แถวบ้านเรา เอาแนวคิดมาจากหนังเรื่องนี้หรือเปล่า แถมหนังยังมีภาค 2และภาค 3 ออกมาอีกด้วย สำหรับท่านที่ชอบหนังเบาสมองลองหามาดูกันนะครับ




ข้อสังเกตุ


  • ตัวละครสารวัติในเรื่อง เป็นตัวละครเดียวกับสารวัติในหนังอีกเรื่องของโจวซิงฉือด้วย ซึ่งเป็นผมคิดว่าเป็นการเขียนบทที่มีอะไรให้คนดูแปลกใจเล่น 

ARMAGEDDON

ARMAGEDDON  วันโลกาวินาศ

             สุดยอดหนังในปี  พ.ศ.2541 (1998) เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีได้ผมได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์ แถมไปกับกลุ่มเพื่อนๆ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2541 วันแม่แห่งชาติ ต้องบอกว่าคุ้มสุดๆ เนื้อหามีทุกรสชาติ ความรัก การเสียสละ มุขตลก เป็นดูจบแล้วยังมีเรื่องให้คุยกับคนอื่นได้อีกหลายวัน เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้ผมต้องมาหาข้อมูลกระสวยอวกาศเพิ่ม และเป็นหนังที่จุดประกายให้ผมชอบเรื่องอวกาศและดวงดาว อาจจะเป็นเพราะหนังฉายในช่วงที่กระแส ฝนดาวตก และ ดาวหางมาเฉียดโลก กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก จำได้ว่าตอนนั้นหนังทำเงินแบบถล่มทลาย (จำไม่ได้ว่าช่วงนั้นดาวอะไร) มีอยู่ครั้งนึงมีครูที่เคารพของผมท่านนึงบอกว่า หนังค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นผมก็ไม่เห็นด้วยเพราะว่าดูไปด้วยจินตการและความรู้ยังน้อย (ม.2) ช่วงทีมีแผ่นออกมาผมก็อดดูซ้ำอีกไม่ได้ นานๆเข้า ก็ดูไปหลายสิบรอบ ยิ่งเปิดเวลาอ่านหนังสือจนติดเป็นนิสัยอยู่ช่วงนึง ดูมากๆ จนจับผิดได้หลายๆจุดก็ตลกดีครับ มีเรื่องไปคุยได้อีกหลายเรื่อง และทำให้รู้ว่า หลายๆฉากเป็นไปไมไ่ด้ อย่างที่ครูของผมเคยพูดไว้จริงๆ และที่ประทับใจคือเพลงประกอบที่หลายท่านคงรู้จักกันดี I don't want to miss a thing แถมมิวสิควีดีโอที่ดูแล้วอดน้ำตาคลอไม่ได้ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำของหลายๆคน 


วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

love actually

ทุกหัวใจมีรัก

               หนังรักสุดแสนโรแมนติค ผมได้ดูเรื่องนี้ประมาณปีพ.ศ.2546 เนื้อเรื่องก็ตามชื่อหนังเลยครับ รักมีอยู่ทุกที่ เรื่องราวของแต่ละตัวละครจะเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน และเชื่อมโยงถึงกัน แต่ไม่มีผลกระทบต่อกันมากนัก ก็เป็นการผูกเรื่องที่มีอะไรให้เราคิด และนึกย้อนไปถึงเนื้อเรื่องที่เกิดก่อนหน้านั้นได้ในหลายๆฉาก ความรักในเรื่องมีหลายนิยามเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เหงา เศร้า รักข้างเดียว อกหัก รักเพื่อน การพลัดพราก การสูญเสีย ความรักแบบใสซื่อ มิตรภาพ รวมกับเพลงเพราะๆ หลายเพลงตลอดทั้งเรื่อง ตอนนี้ผมเองก็ยังต้องหาเพลงประกอบมาฟังอยู่บ่อยๆ แถมด้วยฉากตลกนิดๆ หน่อยๆ ที่แทรกเข้ามา สรุปแล้ว เป็นหนังโรแมนติค ที่ดีมากเรื่องนึง ดูได้ทุกเวลา เวลาอกหัก ดูเรื่องนี้แล้วจะมีกำลังใจ และฉากที่ติดใจมากทีสุดคือ ฉากการแถลงการณ์ของท่านนายก ที่น่าจะเรียกรอยยิ้มจากคนดูได้เสมอ 





She's All That

วันนี้ขอประเดิมเรื่องแรกกับ She's All That นะครับ 


สาวเอ๋อสุดหัวใจ


          หนังเลิฟคอมเมดี้ ในความทรงจำ พร้อมบทเพลงที่แสนประทับใจ kiss me ผมได้ดูเรื่องหนังเรื่องนี้ครั้งแรกจากการเช่าม้วนวีดีโอ มาดูกับเพื่อน ตอนอยู่ ม.1 ซึ่งตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ ผมอดขำตัวเองไม่ได้ที่ตอนนั้นไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ถึงได้เช่าหนังโรแมนติคมาดูกับเพื่อนผู้ชาย ตอนกลางดึก ถึงเนื้อหาจะธรรมดาๆ ไม่มีอะไรโลดโผนมาก แต่ด้วยความน่ารักของนางเอก บวกกับเนื้อเรื่องที่ดูธรรมดาๆ
ตัวละครก็เป็นคนธรรมดา ยกเว้นพระเอกที่ค่อนข้างจะเพอร์เฟค แต่เนื่องเรื่องทั่วไปที่มีความเป็นไปได้นี่แหละครับ เป็นสิ่งที่ทำให้ประทับใจ และด้วยเพลงประกอบเพราะๆ ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจะอยู่ในความทรงจำของหลายๆท่าน รวมถึงผมด้วย และเพราะหนังเรื่องนี้ นี่เองทำให้ผมต้องติดตรามผลงานต่อๆมา ของพระเอกอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว